เสี่ยงเซียมซี วัดพระนอน (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) กรุงเทพฯ
‘เสี่ยงเซียมซี วัดพระนอน’ อีกหนึ่ง ในจุดหมายของพุทธศาสนิกชน ที่นิยมไปไหว้พระ ทำบุญ และเสี่ยงเซียมซี โดยการเสี่ยงเซียมซี เป็นอีกหนึ่งการทำนายดวง ดูดวงด้วยตัวเอง และทำนายอนาคต ซึ่งเป็นวิธี ที่สามารถทำได้ง่าย สะดวก แถมยังเลือกสถานที่ได้เอง โดยการทำบุญของชาวพุทธ ส่วนใหญ่ที่เดินทางไปทำบุญที่วัด จะต้องคุ้นชินกับเซียมซีเป็นอย่างดี เพราะเป็นการทำนายอนาต ที่ไม่ต้องรอคิว สามาถเดินเข้าไป หยิบกล่องเซียมซี แล้วอธิษฐานในสิ่งที่อยากถาม แล้วเริ่มต้น เขย่ากระบอกเซียมซี จนกว่าป้ายตัวเลข ที่อยู่ในกระบอกจะหล่นลงมา เมื่อได้ตัวเลขแล้ว ก็เอาไปอ่านคำทำนาย ตามตัวเลขที่ได้มา ก็ถือว่าเป็นดวงของแต่ละคน ในช่วงเวลานั้นไป โดยมีความเชื่อหนึ่งอย่าง ของการเสี่ยงเซียมซี วัดพระนอน คือ หากเสี่ยงได้คำทำนายที่ดี ก็ให้เก็บใบคำทำนายนั้นไว้กับตัวเพื่อเป็นสิริมงคล แต่หากเสี่ยงได้คำทำนายที่ไม่ดี หรือ เป็นลางร้าย ก็ให้เอาใบคำทำนายนั้น ไปเหน็บไว้ที่กิ่งของต้นไม้ใหญ่ หรือ พับแล้วเอาไปสอดไว้ ใต้ฐานพระพุทธรูปภายในวัด ด้วยกุสโลบายที่ว่า การทำแบบนั้น คือ การฝากเรื่องร้ายๆ ไว้ที่วัดแล้ว จะไม่เอาสิ่งที่ไม่ดีกลับไปด้วยนั่นเอง
ประวัติของวัดพระนอน
หากอยากสักการะพระนอน พร้อมกับการได้เสี่ยงเซียมซี ทำนายดวง หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเทพฯ ก็จะต้องเป็นวัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ที่ตั้งอยู่ในเขตสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่ง ของประเทศไทย เพราะเป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ ๑ (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) เป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุด ในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ ๙๙ องค์ มีพระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ ประจำ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
แต่เดิมนั้น ประชาชนในสมัยอยุธยา เรียกวัดนี้ว่า “วัดโพธาราม” หรือ “วัดโพธิ์” โดยสันนิษฐานว่า เพราะเป็นที่ประดิษฐาน ต้นพระศรีมหาโพธิ์ แต่ต่อมาคติความเชื่อ เรื่องการบูชาพระศรีมหาโพธิ์ เสื่อมคลายลงไป ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แก้สร้อยนามพระอารามว่า “วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” เป็นชื่อทางการ แต่เนื่องด้วยชาวบ้านในรุ่นเก่า ก็ยังชินกับการเรียกชื่อเดิมอย่าง “วัดโพธิ์”อยู่ ทำให้วัดนี้มีชื่อเรียกได้ทั้งสองชื่อ นอกจากนั้น ภายในวัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหารยังมี “พระพุทธไสยาส” ซึ่งเป็นพระพุทธรูป สมัยรัตนโกสินทร์ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง ขนาดองค์พระยาว ๔๖ เมตร สูงจากพื้น ถึงยอดพระเกตุมาลา ๑๕ เมตร เฉพาะพระพักตร์จากไรพระศก (ไรผม) ถึงพระหนุ (คาง) ยาว ๕ เมตร กว้าง ๕ ศอก ๒.๕๐ เมตร พระพุทธบาท ยาว ๕ เมตร สูง ๓ เมตร ดังนั้น พระพุทธไสยาสวัดโพธิ์ จึงจัดว่าเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุด ในกรุงเทพมหานคร ใหญ่เป็นอันดับสาม ของประเทศ และเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชน ในชื่อ “พระนอนวัดโพธิ์” หรือ “วัดพระนอน” มาจวบจนปัจจุบัน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
ภายในวัดโพธิ์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระพุทธรูป ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด ดังนี้
1. พระพุทธเทวปฏิมากร: พระประธานใหญ่ภายในวัดโพธิ์ อันเป็นพระพุทธรูป ปางสมาธิ ที่ฐานชั้นที่ 1 ขององค์พระ และได้บรรจุพระบรมอัฐิ และ พระราชสรีรังคาร รัชกาลที่ 1 ไว้ และยังปรากฏความใน “โคลงบอกด้านการปฏิสังขรณ์” ที่จารึกผนังด้านหน้าพระอุโบสถไว้ด้วย
2. พระพุทธไสยาส (พระนอนวัดโพธิ์): พระนอนองค์ใหญ่ที่สุด ในกรุงเทพฯ และ ใหญ่เป็นอันดับสาม ของประเทศไทย ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญภายในวัด โดยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ในฐานะเป็นพระพุทธปฏิมา องค์สำคัญ ทั้งยังเป็นจุดสำคัญ ที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาที่วัดแห่งนี้ โดยความเชื่อว่า หากได้เข้าไปกราบขอพรแล้ว จะมีชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข ดั่งมีร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นที่พึ่งในชีวิต นอกจากนั้น การสักการะพระพุทธไสยาส มีมงคล 108 ประการที่ฝ่าพระบาท ที่มีการประดับมุก ที่ฝ่าพระบาททั้ง 2 ข้าง โดยทำเป็นรูป “อัฎฐตดรสตมงคล” หรือมงคล 108 ประการ ซึ่งเป็นคติที่ปรากฏ ในคัมภีร์ชินาลังการฎีกาของลังกา โดยระบุว่ าเป็นมงคลที่พราหมณ์ ได้เห็นจากฝ่าพระบาทของเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อประสูติได้ 5 วัน โดยมีสัญลักษณ์มงคลต่างๆ ที่สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
- เป็นสัญลักษณ์ แห่งโชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์
- เป็นเครื่องประกอบ พระบารมีของกษัตริย์ และพระเจ้าจักรพรรดิราช
- เป็นส่วนประกอบ ของภพภูมิในจักรวาล ตามความเชื่อในไตรภูมิ
3. มหาเจดีย์สี่รัชกาล: มหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ เป็นพระมหาเจดีย์ ประจำรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4
- พระมหาเจดีย์รัชกาลที่ 1 คือ พระมหาเจดีย์กลาง ประดับกระเบื้องเคลือบสีเขียว นามว่า “พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ” สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เพื่อบรรจุพระพุทธรูป นามว่า “พระศรีสรรเพชญ์”
- พระมหาเจดีย์รัชกาลที่ 2 คือ พระมหาเจดีย์ ด้านทิศเหนือ ประดับกระเบื้องเคลือบสีขาว นามว่า “พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรกนิทาน” เพื่อทรงพระราชอุทิศ แด่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 พระบรมราชชนก ของพระองค์เอง
- พระมหาเจดีย์รัชกาลที่ 3 คือ พระมหาเจดีย์ ด้านทิศใต้ นามว่า “พระมหาเจดีย์มุนีบัตบริขาร” สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เพื่อพระราชอุทิศถวาย เป็นพระพุทธบูชา
- พระมหาเจดีย์รัชกาลที่ 4 คือ พระมหาเจดีย์ ด้านทิศตะวันตก นามว่า “พระมหาเจดีย์ทรงพระศรีสุริโยทัย” สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อพระราชอุทิศถวาย เป็นพระพุทธบูชา
4. ศาลาการเปรียญ: ที่แต่เดิมเป็นพระอุโบสถ ของวัดโพธิ์ มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ภายหลังการสถาปนา ได้ลดฐานะเป็นศาลาการเปรียญ ที่มีพระพุทธศาสดาประดิษฐาน เป็นพระประธานอยู่ภายในศาลา ปัจจุบันเป็นพุทธสถานที่ปฏิบัติธรรม แทนพระวิหาร เพราะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ ฟังเทศน์ ทำบุญ และใช้เป็นที่เรียนธรรม ของพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดโพธิ์
5. พระวิหารทิศ: พระวิหารที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญจากหัวเมืองต่าง ๆ มาประดิษฐานไว้ โดยแบ่งออกเป็นมุขหน้าและมุขหลัง ตั้งไว้ทั้ง 4 ทิศ ดังนี้
การเดินทางไปที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
การเดินทางมาสักการะพระพุทธรูป เสี่ยงเซียมซี วัดพระนอน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดนี้ สามารถเดินทางไปได้หลายทาง โดยตั้งต้นที่กรุงเทพฯ และเลือกการเดินทางได้ ดังนี้
เดินทางด้วยรถเมล์ :
- รถประจำทาง สาย ๑, ๓, ๖, ๙, ๑๒, ๒๕, ๓๒, ๔๔, ๔๗, ๔๘, ๕๓, ๘๒
- รถประจำทางปรับอากาศ สาย ปอ.๑, ปอ.พ. ๔, ปอ.๕๐๗, ปอ.๕๐๘, ปอ.๑๒, ปอ.๔๔, ปอ.๔๘
เดินทางด้วยรถส่วนตัว
- จอดรถได้ที่ ถนนเชตุพน โดยเสียค่าบริการชั่วโมงละ ๒๐ บาท
เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน
- สถานีสนามไชย ทางออกหมายเลข 1
เดินทางด้วยเรือด่วน
- การเดินทางโดยเรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นที่ท่าเรือ ท่าช้าง, ท่าวัดอรุณแล้วนั่งเรือข้ามฝากมาขึ้นท่าเตียน หรือท่าราชินี
พิกัดที่ตั้ง GPS : N 13° 44′ 47.429 E 100° 29′ 35.144เสี่ยงเซียมซี วัดพระนอน
5 เหตุผลที่ทำไมต้องมาเสี่ยงเซียมซี ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
- การเดินทางสะดวก สามารถเลือกเส้นทาง การเดินทาง ได้หลากหลาย
- เป็นที่ประดิษฐาน ของพระพุทธรูปปางสำคัญๆ ในไทย และพระพุทธไสยาส (พระนอน) ที่มีการประดับมุก ประณีตศิลป์ที่ฝ่าพระบาททั้ง ๒ ข้าง ซ้าย-ขวา เป็นรูปอัฎฐตดรสตมงคล หรือมงคล ๑๐๘ ประการ
- วัดแห่งการไหว้เสริมบารมี ทำให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข และขอลูก(ในวันพระ)
- ผู้ที่อายุย่างเข้าเลข 3 หากไปขอพรเรื่องความรัก กับพระนอนวัดโพธิ์ เชื่อว่าจะสมหวัง
- วัดสวยติดอันดับ ของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่มีจุดถ่ายภาพสวยๆ หลายจุด เช่น ยักษ์วัดโพธิ์, เขามอ หรือสวนหินปลูกไม้ประดับ ของรัชกาลที่ 3, มหาเจดีย์สี่รัชกาล และตลาดท่าเตียน ที่เป็นตลาดสำคัญที่สุด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะเป็นแหล่งรวมสินค้าทุกชนิด จากทุกหัวเมือง
ในการเดินทางมา สักการะพระนอน เสี่ยงเซียมซี วัดพระนอน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดพระนอน) ไม่เพียงแต่ได้ทำบุญเท่านั้น แต่ภายในวัดยังสวยงามร่มรื่น และเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ที่เข้ามาถ่ายภาพในจุดต่างๆ ของวัดที่มีความสวยงาม และเสน่ห์มนต์ขลังของวัด อันเป็นเอกลักษณ์ของวัด ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ใครที่เข้ามาสักการะบูชา และเสี่ยงเซียมซีที่วัดนี้หากได้ใบทำนายที่ดี ก็เป็นการเสริมสารมีให้เพิ่มขึ้น และหากเสี่ยงได้ไม่ดี ก็สามารถทำบุญ เสริมดวงได้ที่วัดนี้ได้เลย
📍 แนะนำ สำหรับคนเกิดวันอังคาร เหมาะแก่การเดินทาง ไปกราบไหว้พระพุทธไสยาสมากที่สุด เพราะท่านเป็นพระประจำวันเกิด ของคนของคนเกิดวันอังคาร พระพุทธไสยาส วัดพระนอน (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) จึงเป็นเสมือนเครื่องเตือนใจ ให้คนวันนี้ดำรงชีวิต ด้วยความมีสติ ระมัดระวัง ไม่ไปก่อเหตุกับใคร อีกทั้งวันที่พระพุทธเจ้า ทรงปรินิพพาน ก็ตรงกับวันองคาร ถ้าได้ไปไหว้ ไปบูชาจะช่วยเสริมบารมี เพิ่มความเฮงๆ ปังๆ ร่ำรวยตลอดทั้งปี
บทสวดบูชา พระพุทธไสยาส (พระประจําวันอังคาร)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (นะโม 3 จบ)
ยัสสานุภาวะโต ยักขา เนวะ ทัสเสนติ ภิงสะนัง ยัมหิ เจวานุยุญชันโต รัตตินทิวะ มะตันทิโต
สุขัง สุปะติ สุตโต จะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ เอวะมาทิคุณู เปตัง ปะริตตันตัมภะณามะเหฯ
สวดภาวนา ก่อนนอน วันละ 8 จบ เพิ่มความสงบสุข และความร่มเย็นในชีวิต
บทสรุปเกี่ยวกับ เสี่ยงเซียมซีวัดพระนอน
การเดินทาง มาสักากระพระพุทธไสยาส เสี่ยงเซียมซี วัดพระนอน หรือไหว้สักการะ พระนอนวัดโพธิ์ ที่วัดพระนอน เสี่ยงเซียมซี วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) สามารถเดินทาง มาได้ทุกวัน โดยมีเวลาเปิด-ปิดของวัด และการแต่งกาย ที่ควรรู้ ก่อนเดินทางมา ดังนี้
- วิหารพระนอน เปิดให้เข้าได้ทุกวัน เวลา 08.00 – 18.30 น.
- การแต่งกายสุภาพ เสื้อมีแขน กางเกง หรือกระโปรงยาว
- คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ 100 บาท
นอกจากจะเป็น วัดที่มีพระนอนใหญ่ที่สุด อันดับสามในไทย มีมหาเจดีย์สี่รัชกาล ที่เป็นพระมหาเจดีย์ ประจำรัชกาลที่ 1-4 แล้ว วัดโพธิ์ยังมีมรดกทรงคุณค่า ให้ศึกษาเรียนรู้อีกเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรก ของประเทศ ที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง
ทางยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน เป็นมรดกความทรงจำโลก ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2551 และวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนจารึก โบราณสถานและวัตถุมงคล ภายในวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น เป็นมรดกความทรงจำโลก ในทะเบียนนานาชาติ ที่รวมเอาภูมิปัญญาไทย ไว้เป็นมรดกให้คนรุ่นหลัง ได้เรียนรู้อีกมากมาย
เมื่อออกมาที่บริเวณหน้าวัด หรือข้างวัด ก็จะมีแผงล็อตเตอรี่หลายๆ แผง ให้นักเสี่ยงโชคได้เลือกซื้อกันหด้วย หรือใครที่ได้เลข จากการไปไหว้พระทำบุญ แล้วไม่มั่นใจเลขในมือ ก็เข้ามาเช็คเลขเด็ด กับเว็บไซต์ของเราได้เลยครับ มีตารางเลข ทุกหวยแม่นๆ จัดเต็มแน่นอน
การเสี่ยงเซียมซี ทำนายดวง ทำนายอนาคต ที่วัดพระนอน มีวิธีเสี่ยงทาย ดังนี้
- ทำสมาธิ/ทำจิตใจให้สงบ แล้วตั้งจิตอธิษฐาน ถึงสิ่งศักดิ์ ตั้งจิตอธิษฐาน บอกชื่อ-นามสกุล แล้วขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดดวง โดยอย่าลืมว่า การอธิษฐานด้วยจิตที่เป็นสมาธิของคนเรานั้น มีผลต่อการทำนายจริงๆ
- จับกระบอกเซียมซี ด้วย 2 มือ เขย่ากระบอกเซียมซีเบาๆ จนกว่าไม้ติ้วที่มีตัวเลข จะหล่นลงมา
- เมื่อได้ตัวเลขมาแล้ว ให้อ่านคำทำนายตามตัวเลขที่ได้ จากแผ่นป้ายที่ทางวัดติดไว้